พระเถระเจ้าตอบว่า "ดูกร ปริพพาชก พระมหาสมณะศากยบุตรเสด็จออกบรรพชาจากศากยราชตระกูล พระองค์นั้น เป็นบรมครูของฉัน ฉันบวชต่อพระศาสดาพระองค์นั้น และเล่าเรียนธรรมในพระศาสดาพระองค์นั้นแล" อุปติสสปริพพาชกจึงเรียนถามต่อไปว่า "อาจารย์ของท่านทั้งสอนธรรมอย่างไร แก่ท่าน ?
พระเถระเจ้าดำริว่า ธรรดาปริพพาชกย่อมเป็นปฏิปักษ์ต่อพระศาสนา ควรอาตมะจะแสดงคุณแห่งพระศาสนา โดยความเป็นธรรมลึกซึ้งและประณีตสุขุมเถิด ครั้นแล้วจึงตอบว่า "ดูกร ปริพพาชก อาตมะเพิ่งบวชใหม่ ไม่อาจแสดงธรรมวินัยโดยพิสดารแก่เธอได้ดอก" อุปติสสปริพพาชกจึงเรียนปฏิบัติท่านว่า "ข้าพเจ้าชื่อว่า อุปติสสะ ขอให้พระเถระเจ้ากรุณาบอกธรรมเพียงแต่ย่อ ๆ เถิด"
พระอัสสชิเถรเจ้า กล่าวคาถาแสดงวัถุประสงค์ของพระศาสนาว่า "เย ธมฺมา เหตุปุปภวา" เป็นอาทิ ความว่า "ธรรมทั้งหลายเกิดแต่เหตุ พระตถาคตเจ้าตรัสเหตุแห่งธรรมเหล่านั้น และความดับแห่งเหตุของธรรมเหล่านั้น พระมหาสมณะตรัสสอนอย่างนี้"
อุปติสสปริพพาชกได้ปรีชาญาณหยั่งเห็นสัจธรรม ถึงบรรลุโสดาปัตติผล โดยสดับเทศนาหัวใจพระศาสนา ของพระเถรเจ้าเพียงคาถาหนึ่งเท่านั้น แล้วเรียนท่านโดยคารวะว่า "ข้าแต่ท่านอาจารย์ ขอประทานกรุณาหยุดเพียงนี้เถิด อย่าแสดงต่อไปอีกเลย เวลานี้พระบรมศาสดาของเราเสด็จอยู่ที่ไหน ?
พระเถรเจ้าบอกว่า "เวลานี้ พระบรมศาสดายังเสด็จประทับอยู่ที่พระเวฬุวันวิหาร"
"เป็นพระคุณหาที่สุดมิได้" อุปติสสะอุทานวาจาด้วยความซาบซึ้งในธรรม และในความกรุณาของพระเถรเจ้า "นิมนต์ท่านอาจารย์ไก่อนเถิด แล้วข้าพเจ้าจะตามไปภายหลัง ด้ววยข้าพเจ้าได้ให้สัญญาไว้กับโกลิตมาณพสหายที่รักว่า ถ้าผู้ใดได้โมกขธรรมก่อน จงบอกแก่กันให้รู้ ฉะนั้น ข้าพเจ้าจะกลับไปเปลื้องสัญญาเสียก่อน แล้วจะพาสหายผู้นั้นไปสู่สำนักพระบรมศาสดาของเราต่อภายหลัง" แล้วกราบพระเถรเจ้าด้วยเบญจางคประดิษฐ์ด้วยความเคารพ กระทำประทักษิณเดินเวียน ๓ รอบ แล้วส่งพระเถรเจ้าไปก่อน ส่วนตนออกเดินบ่ายหน้าไปสู่ปริพพาชการาม
ส่วนโกลิตปริพพาชกเห็นสหายเดินมาแต่ไกล จึงดำริว่า ใบหน้าของสหายเราวันนี้ ดูเบิกบาน ผ่องใสยิ่งกว่าวันอื่น ๆ ชะรอยจะได้โมกขธรรมเป็นแน่แท้ ครั้นอุปติสสปริพพาชกเข้ามาใกล้ จึงถามตามความคิด อุปติสสสก็บอกว่า "ตนได้บรรลุโมกขธรรมแล้ว มานี่ก็เพื่อบอกโมกขธรรมนั้นแก่สหาย ไห้เป็นไปตามสัญญาของเราที่ให้กันไว้้แต่แรก ขอสหายจงตั้งใจฟังเถิด" แล้วอุปติสสะก็แสดงคาถาหัวใจของพระศาสนา ซึ่งตนได้สดับมาจากพระอัสสชิเถรเจ้า พออุปติสสะแสดงจบลง โกลิตปริพพาชกก็ได้ปรีชาญาณหยั่งเห็นในอริยสัจจะ บรรลุโสดาปัตติผลเช่นเดียวกับอุปติสสปริพพาชก
โกลิตะจึงกล่าวแก่อุปติสสะว่า "เราทั้งสองได้บรรลุโมกขธรรมแล้ว ควรจะไปสำนักของพระบรมศสดากันเถิด" อุปติสสะเป็นผู้เคารพบูชาอาจารย์มาก จึงตอบว่า "ถูกแล้ว เราทั้งสองควรจะไปเฝ้าพระบรมศาสดาดังที่เธอกล่าว แต่ก่อนจะจากสำนักนี้ไป เราทั้งสองควรจะไปอำลาท่านสญชัยอาจารย์ แล้วหาโอกาสแสดงโมกขธรรมให้ฟัง ถ้าอาจารย์ของเรามีวาสนาบารมี ก็จะพลอยได้รู้โมกขธรรมด้วยกัน แม้ไม่ถึงอย่างนั้น เพียงแต่ท่านเชื่อฟังแล้วพากันไปสู่สำนักพระบรมศาสดา เมื่อได้ฟังธรรมเทศนาแล้ว ก็จะได้บรรลุมรรคและผลตามวาสนาบารมีเป็นแน่่"