วันศุกร์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

พระสรีระศพไม่เคลื่อนจากที่


ครั้นวันที่ ๗  มัลลกษัตริย์ทั้งหลายได้ปรึกษาพร้อมใจกัน  ในการจะอัญเชิญพระสรีระของพระผู้มีพระภาค ไปโดยทิศทักษิณแห่งพระนคร  เพื่อถวายพระเพลิงยังภายนอกพระนคร  เมื่อได้ปรึกษาตกลงกันแล้ว  ก็เตรียมอัญเชิญพระสรีระศพ  แต่ก้ไม่สามารถจะอัญเชิญไปได้  แม้แต่จะขยับเขยิ้อนให้เคลื่อนจากสถานที่สักน้อยหนึ่ง  มัลลกษัตริย์พากันตกตะลึงในเหตุอัศจรรย์ที่ไม่เคยประเสบเช่นนั้น  จึงได้พร้อมกันไปเรียนถามท่านพระอนุรุทธะเถระเจ้า  ซึ่งเป็นประธานสงฆ์อยู่  ณ  ที่นั้นว่า  "ข้าแต่ท่านพระอนุรุทธะ  ด้วยเหตุไฉนข้าพเจ้าทั้งหลาย  จึงจะสามารถเขยิ้อนเคลื่อนพระสรีระศพพระผู้มีพระภาคเจ้าจากสถานที่ประดิษฐานนั้นได้เล่า  พระคุณเจ้า"

"เพราะพระองค์ทำไม่ต้องประสงค์ของเทวดา"  พระอนุรุทธะเถระกล่าว  "เทวดาจึงไม่ยอมให้พระพุทธสรีระเขยื้อนจากที่"

"เทวดาทั้งหลายมีความประสงค์เป็นฉันใดเล่า  ท่านพระอนุรุทธะผู้เจริญ"

"เทวดาทุกองค์  มีความประสงค์ให้อัญเชิญพระสรีระศพของพระผู้มีพระภาคเจ้าเข้าพระนครก่อน  โดยเข้าทางประตูทิศอุดร  เชิญไปในท่ามกลางพระนคร  แล้วออกจากพระนคร  โดยทางประตูทิศบูรพา  แล้วอัญเชิญไปประดิษฐานถวายพระเพลิงที่มกุฏพันธนเจดีย์  ด้านทิศตะวันออก  แห่งกุสินารานคร  เทวดามีความประสงค์ดังนี้  เมื่อพระองค์ทำขัดกับความประสงค์ของเทวดา  จึงไม่สำเร็จ"

ครั้นมัลลกษัตริย์ได้ทราบเถราธิบายเช่นนั้น  ก็ทรงผ่อนผันอนุวัตร  ให้เป็นไปตามประสงค์ของเทวดา จัดการอัญเชิญพระสรีระศพของพระผู้มีพระภาค  เขยื้อนเคลื่อนจากสถานที่นั้นไปอย่างง่ายดาย  แล้วก็อัญเชิญพระพุทธสรีระศพขึ้นประดิษฐานบนเตียงมาลาอาสน์  ซึ่งตกแต่งด้วยอาภรณ์อันวิจิตร  แล้วเคลื่อนขบวนอัญเชิญไปโดยทางอุดรทิศ  เข้าไปภายในแห่งพระนคร  ประชาชนพากันสโมสรเข้าขบวนแห่ตามพระสรีระศพสุดประมาณ  เสียงดุริยางค์ดนตรีแซ่ประสานกับเสียงมหาชนดังสนั่นลั่นโกลาหลเป็นมหัศจรรย์  ทั้งดอกมณฑาอันเป็นของทิพย์ในสรวงสวรรค์  ก็ร่วงหล่นลงมาสักการบูชาพระผู้มีพระภาคเจ้า  ขบวนมหาชนอัญเชิญพระพุทธสรีระศพ  ได้ผ่านไปในวิถีทางท่ามกลางพระนครกุสินารา  ประชาชนทุกถ้วนหน้า  พากันสักการบูชาทั่วทุกสถาน  ตลอดทางที่พระพุทธสรีระศพจะแห่ผ่านไปตามลำดับ


.....................................

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น