วันอาทิตย์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

นางมัลลิกาถวายเครื่องมหาลดาประสาธน์


ขณะนั้น  นางมัลลิกา ผู้เป็นภรรยาของท่านพันธุละเสนาบดี  ซึ่งมีนิเวศน์อยู่ในนครนั้น  ครั้นได้ทราบว่า ขบวนอัญเชิญพระพุทธสรีระศพ  จะผ่านมาทางนั้น  นางก็มีความยินดี  ที่จะได้อัญชลีอภิวาทเป็นครั้งสุดท้าย  นางจึงดำริด้วยความเลื่อมใสว่า  "นับตั้งแต่ท่านพันธุละล่วงลับไปแล้ว  เครื่องประดับอันมีชื่อว่า มหาลดาประสาธน์  เราก็มิได้ตกแต่ง  คงเก็บรักษาไว้เป็นอันดี  ควรจะถวายเป็นอาภรณ์ประดับพระพุทธสรีระพระชินศรีในอวสานกาลบัดนี้เถิด"

อันเครื่องอาภรณ์มหาลดาประสาธน์นี้  งามวิจิตร  มีค่ามากถึง  ๙๐  ล้าน  เพราะประกอบด้วยรัตน ๗ ประการ  ในสมัยนั้นมีอยู่เพียง  ๓  เครื่อง  คือ  ของนางวิสาขา ๑   ของนางมัลลิกา ภรรยาของท่านพันธุละ ๑   ของเศรษฐีธิดา  ภรรยาท่านเทวทานิยสาระ ๑   ซึ่งเป็นอาภรณ์ที่ได้รับยกย่องว่าเป็นของสำหรับผู้มีบุญ

ครั้นเมื่อขบวนอัญเชิญพระพุทธสรีระศพ  ผ่านมาถึงหน้าบ้านนางมัลลิกา  นางจึงได้ขอร้องแสดงความประสงค์บูชาด้วยอาภรณ์มหาลดาประสาธน์  มหาชนผู้อัญเชิญพระพุทธสรีระศพ  ก็วางเตียงมาลาอาสน์ที่ประดิษฐานพระพุทธสรีระลง  ให้นางมัลลิกาถวายอภิวาท  เชิญเครื่องมหาลดาประสาธน์มาสวมพระพุทธสรีระศพ  เป็นเครื่องบูชา  ขณะนั้นพระพุทธสรีระศพก็งามโอภาสเป็นที่เจริญตาเจริญใจ  ปรากฏแก่มหาชนทั้งหลาย  ต่างพากันแซ่ซ้องสาธุการเป็นอันมาก  แล้วมหาชนก็อัญเชิญพระพุทธสรีระศพเคลื่อนจากที่นั้น  ออกจากประตูเมืองบูรพาทิศ  ไปสู่มกุฏพันธนเจดีย์

ครั้นถึงยังที่จิตกาธาน  อันสำเร็จด้วยไม้จันทน์หอม  งามวิจิตรซึ่งได้จัดทำไว้  ก็จัดการห่อพระพุทธสรีระศพด้วยทุกุลพัสตร์ภูษา  ๕๐๐  ชั้น   แล้วก็อัญเชิญลงประดิษฐานในหีบทองซึ่งเต็มไปด้วยน้ำมันหอมตามคำพระอานนท์เถระแจ้งสิ้นทุกประการ


...................................

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น