วันพุธที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

โปรดให้ลงพรหมทัณฑ์พระฉันนะ


พระอานนท์เถระ  ได้ทูลถามพระบรมศาสดาว่า  "ข้าแต่พระผู้มีพระภาคเจ้า  พระฉันนะ  ถือตัวว่า  เป็นข้าเก่า  ติดตามพระองค์คราวเสด็จสู่มหาภิเนษกรมณ์  เป็นผู้ว่ายาก  ไม่รับโอวาทใคร ๆ  แม้จะกรุณาเตือน เมื่อพระองค์ปรินิพพานแล้ว  จักเป็นผู้ว่ายากยิ่งขึ้น  ด้วยหาผู้ยำเกรงมิได้  ข้าพระองค์จะพึงปฏิบัติแก่ท่านอย่างไร  ในกาลเมื่อพระองค์ปรินิพพานแล้ว"

"อานนท์  เมื่อเราล่วงลับไปแล้ว  สงฆ์พึงลงพรหมทัณฑ์แก่ฉันนะเถิด"

"พรหมทัณฑ์  เป็นไฉนเล่าพระเจ้าข้า"

"อานนท์  การลงพรหมทัณฑ์นั้น  คือ  ภิกษุทั้งหลายไม่พึงว่ากล่าว  ไม่พึงโอวาท  ไม่พึงสั่งสอนเลย  ไม่พึงเจรจาคำใด ๆ ด้วย  ทั้งสิ้น  เว้นแต่คำอันเป็นกิจธุระโดยเฉพาะ  อานนท์  เมื่อฉันนะถูกสงฆ์ลงพรหมทัณฑ์แล้ว  จักสำนึกในความผิด  และสำเหนียกในธรรมวินัยเป็นผู้ว่าง่าย  ยอมรับโอวาท  ปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรมแล"



ประทานโอวาท

ลำดับนั้น  พระผู้มีพระภาคเจ้า  ได้ประทานโอวาทแก่ภิกษุทั้งหลายว่า  "อานนท์  เมื่อตถาคตปรินิพพานแล้ว  หากจะมีภิกษุบางรูปดำริว่า  พระศาสดาของเราปรินิพพานแล้ว  บัดนี้  ศาสดาของเราไม่มี  
อานนท์ ! ท่านทั้งหลายไม่ควรดำริอย่างนั้น  ไม่ควรเห็นอย่างนั้น  แท้จริง  วินัยที่เราได้บัญญัติแก่ท่านทั้งหลายก็ดี  ธรรมที่เราได้แสดงแล้วแก่ท่านทั้งหลายก็ดี  เมื่อเราล่วงไป  ธรรมและวินัยนั้น ๆ  แล  จักเป็นศาสดาของท่านทั้งหลาย



ปัจฉิมโอวาท

ภิกษุทั้งหลาย  บัดนี้เราขอเตือนท่านทั้งหลาย  สังขารทั้งหลายมีความเสื่อมความสิ้นไปเป็นธรรมดา ท่านทั้งหลาย  จงบำเพ็ญไตรสิกขา  คือ  ศีล  สมาธิ  ปัญญา  ให้บริบูรณ์ด้วยความไม่ประมาทเถิด"




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น