วันจันทร์ที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

โปรดสุภัททปริพาชก


สมัยนั้น  ปริพาชกผู้หนึ่ง  ชื่อ  สุภัททะ  ชาวเมืองกุสินารา  สุภัททปริพาชกนั้น  ได้ข่าวว่า  พระสมณโคดมจักปรินิพพานในที่สุดแห่งราตรีนี้แล้ว  จึงคิดว่า  "ความสงสัยของเรามีอยู่  ควรจะรีบออกไปเฝ้าทูลถามให้พระองค์ตรัสบอกบรรเทาความในใจของเรานั้นเสีย"  แล้วสุภัททปริพาชก  ก็ออกจากเมืองกุสินารา  เข้าไปพบพระอานนท์ยังอุทยาสสาลวัน  เพื่อขอโอกาสได้เข้าเฝ้า

พระอานนท์เถระเจ้าได้ทัดทานว่า  "อย่าเลย  สุภัททะ  ท่านอย่าเบียดเบียนพระตถาคตเจ้าเลย"  ขณะนั้นพระตถาคตเจ้าก็ทรงลำบากพระกายหนักอยู่แล้ว  แม้สุภัททปริพาชกจะได้วิงวอนแล้ว ๆ  เล่า ๆ  อยู่ถึง ๒ ครั้ง  ๓  ครั้ง  พระอานนท์เถระเจ้าก็ไม่ยอมให้เข้าเฝ้า

ขณะนั้น  พระผู้มีพระภาคเจ้าได้สดับเสียงพระอานนท์  และสุภัททปริพาชกเจรจากันอยู่  จึงตรัสเรียกพระอานนท์ว่า  "อานนท์  อย่าห้ามสุภัททะเลย  ให้สุภัททะได้เห็นตถาคตเถิด  แม้สุภัททะจะถามปัญหาอันใดกับตถาคตก็จะไม่เบียดเบียนตถาคตให้ลำบาก  สุภัททะจักตรัสรู้ทั่วถึงธรรมในปัญหาทั้งปวงที่ตถาคตได้พยากรณ์แล้ว"

ลำดับนั้น  พระอานนท์จึงบอกปริพาชกว่า  "สุภัททะ  บัดนี้  พระผู้มีพระภาคเจ้า  ทรงพระกรุณาประทานโอกาสให้แก่ท่านแล้ว  ท่านจงเข้าไปเฝ้าเถิด"

สุภัททปริพาชก  มีความเบิกบานใจ  เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าถวายบังคมแล้ว  ได้ทูลถามถึงครูทั้ง ๖  ซึ่งเป็นเจ้าลัทธิ  มีปูรณกัสสปเป็นต้น  ปฏิญญาว่าเป็นผู้วิเศษ  ได้ตรัสรู้ยิ่งด้วยปัญญานั้น  สมจริงดังคำปฏิญญาหรือไม่ ? "

พระผู้มีพระภาคตรัสว่า  "อย่าเลย  สุภัททะ  เราจักแสดงธรรมแก่ท่าน  ท่านจงตั้งใจฟัง  แล้วทำไว้ในใจให้สำเร็จประโยชน์เถิด"  แล้วพระผู้มีพระภาคได้ตรัสอริยมรรค ๘ ประการ  ว่าเป็นมรรคาประเสริฐมีอยู่ในธรรมวินัยใดแล้ว  สมณะคือท่านผู้สงบระงับดับกิเลสได้จริง  ย่อมมีอยู่ในธรรมวินันั้น  อนึ่ง  อริยมรรคทั้ง  ๘  นั้น  ก็มีอยู่เฉพาะในธรรมวินัยนี้เท่านั้น  แม้สมณะดังกล่าวแล้ว  ก็มีอยู่แต่ในธรรมวินัยนี้แห่งเดียว  "สุภัททะ  หากภิกษุทั้งหลายจะพึงปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ  ในธรรมนี้แล้วไซร้  โลกนี้ก็จักไม่พึงว่างเปล่าจากพระอรหันต์"

เมื่อพระผู้มีพระภาคตรัสแสดงธรรมนี้  สุภัททะปริพาชกมีความเชื่อเลื่อมใส  ทูลสรรเสริญพระธรรมเทศนา  พร้อมกับขอปริฏิญญาตนเป็นอุบาสกและทูลขอบรรพชาอุปสมบทในสำนักพระผู้มีพระภาค

ลำดับนั้น  พระผู้มีพระภาคตรัสให้พระอานนท์รับธุระจัดให้สุภัททะอุบาสกบรรพชาอุปสมบทตามความปรารถนา  เมื่อพระสุภัททได้อุปสมบทแล้ว  หลีกออกไปบำเพ็ญสมณธรรม  ก็ได้บรรลุพระอรหันต์ในราตรีวันนั้น  ได้เป็นพระอรหันต์ปัจฉิมสาวกของพระผู้มีพระภาคทันพระชนม์ชีพของพระบรมศาสดา


..................................

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น