วันอังคารที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2556

ทรงขอน้ำเสวย

ลำดับนั้น  พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงเยียวยาพระโรคาด้วยโอสถ คือ สมาบัติภาวนา  เสด็จจากเมืองปาวา พร้อมด้วยพระภิกษุสงฆ์ตามมรรคาโดยลำดับ  ขณะที่เสด็จพระพุทธดำเนินตามทางนั้น  ให้บังเกิดระหายน้ำเป็นกำลัง  จึงเสด็จแวะเข้าพักยังร่มไม้ริมทาง  พลางตรัสเรียกพระอานนท์ว่า  "อานนท์ ตถาคตระหายน้ำมาก  เธอจงไปตักน้ำมาให้ตถาคตดื่มระงับความระหายให้สงบ"

เป็นครั้งแรกและเป็นครั้งเดียว  ที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงเรียกขอน้ำเสวยในขณะเดินทางยังไม่ถึงที่พัก เนื่องด้วยพระองค์ทรงประชวรมาก  ใกล้อวสานพระชนม์  ต้องเสวยทุกขเวทนาซึ่งเกิดแต่สังขาร  สมดังกระแสพระโอวาทที่ตรัสว่า  "สังขารเป็นมารทำลายความสงบสุข  ไม่เลือกว่าสังขารของผู้ใดทั้งสิ้น"

พระอานนท์  ได้กราบทูลว่า  "ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ  เกวียนประมาณ ๕๐๐ เล่ม  เพิ่งข้ามแม่น้ำนี้ไป แม่น้ำนี้เป็นแม่น้ำเล็ก  น้ำในแม่น้ำก็น้อย  เมื่อล้อเกวียนมากด้วย  บดไปตลอดทุกเล่ม  น้ำขุ่นนัก  ไม่ควรจะเป็นน้ำเสวย  ถัดนี้ไปไม่ไกลนัก  แม่น้ำกกุธานที  มีน้ำจืด ใส เย็น ทั้งมีท่ารื่นรมย์  เชิญเสด็จพระผู้มีพระภาคไปยังแม่น้ำกกุธานทีโน้นเถิด  ผิวะเสวยหรือจะสรงก็จะเย็นเป็นสุขสำราญ"

"ไปเถอะ  อานนท์"  ทรงรับสั่ง  "ไปนำน้ำในแม่น้ำนี้แหละมาให้ตถาคตดื่มบรรเทาความระหาย"

พระอานนท์ได้กราบทูลทัดทานถึง ๒ ครั้ง  เมื่อได้สดับกระแสรับสั่งครั้งที่ ๓  พระเถระเจ้าก็อนุวัตรตาม
พระบัญชาทันที  ด้วยได้สติรู้ทันในพระบารมีของพระสัมพุทธเจ้าว่า  "อันธรรมดาของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย  จะดำรงคงพระวาจามั่นในสิ่งซึ่งหาสาเหตุมิได้  เป็นไม่มี"  จึงรีบนำบาตรเดินตรงไปยังแม่น้ำนั้น ครั้นเข้าไปใกล้แม่น้ำนั้น  ก็พลันได้ปิติโสมนัส  ด้วยพุทธานุภาพของพระพุทธเจ้า  หากมาบันดาลน้ำในแม่น้ำซึ่งขุ่นข้นได้กลับกลายเป็นน้ำใสสะอาดปราศจากมลทิน

เมื่อพระอานนท์ได้เห็นเช่นนั้น  ก็เกิดอัศจรรย์ใจ  พิศวงในอานุภาพของพระผู้มีพระภาคเจ้า  ดำริว่า  "อานุภาพอันใหญ่หลวงของพระพุทธเจ้าเห็นปานนี้เป็นอัศจรรย์  ไม่เคยมีมาในกาลก่อน"  พระเถระเจ้าได้ลงไปตักน้ำด้วยโสมนัส  แล้วเดินมาด้วยความบันเทิง  น้อมเข้าไปถวายพระผู้มีพระภาคเจ้า  ได้ทรงเสวยตามพระพุทธประสงค์แล้ว  ได้กราบทูลถึงเหตุอัศจรรย์ที่ได้ประสบมานั้น

ครั้งนั้น  ปุกกุสะ บุตรแห่งมัลลกษัตริย์ ผู้เป็นสาวกของท่านอาฬารดาบส กาลามโคตร  เดินทางจากเมืองกุสินารา  เพื่อจะไปยังปาวานครโดยทางนั้น  ครั้นมาถึงที่นั้น  เห็นพระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ร่มไม้ใหญ่ริมทาง  จึงเข้าไปเฝ้าถวายบังคม แล้วนั่ง ณ ที่ควร  พระบรมศาสดาได้ทรงแสดงสันติวิหารธรรมโปรด  ปุกกุสะได้สดับแล้วเกิดความเลื่อมใส  ได้น้อมคู่ผ้าสิงคิวรรณอันมีเนื้อละเอียด มีสีดังทองสิงคี งามประณีตมีค่ามาก ถวายพระผู้มีพระภาคพร้อมด้วยกราบทูล  "ขอพระผู้มีพระภาคได้ทรงอนุเคราะห์ รับคู่ผ้าสิงคิวรรณนี้ เพื่อประโยชน์สุขแก่ข้าพระองค์สิ้นกาลนานเถิด"

"ปุกกุสะ  ถ้าเช่นนั้น  เธอจงคลุมกายตถาคตเพียงผืนเดียว  อีกผืนหนึ่งจงให้อานนท์เถิด"

ปุกกุสะ ได้น้อมผ้าเข้าถวายเป็นพุทธบริโภคผืนหนึ่ง  ถวายพระอานนท์เถระผืนหนึ่ง  ตามพระพุทธบัญชา

พระบรมศาสดาได้ทรงแสดงธรรมีกถาให้ปุกกุสะมัลลบุตร  เบิกบานรื่นเริงในกุศลจริยาตามสมควร  แล้วปุกกุสะได้อภิวาททูลลาไป

.................................






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น