วันอาทิตย์ที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2556

บิณฑบาตครั้งสุดท้าย


ในกาลนั้น  นายจุนท์ได้สดับข่าวว่า  พระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จมาสถิตอยู่ในสวนของตน  ก็มีความยินดี ได้นำสักการะเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคยังที่ประทับ  ถวายนมัสการแล้วนั่ง ณ ที่ควร  พระบรมศาสดาตรัสพระธรรมเทศนาโปรดให้นายจุนท์ชื่นชมโสมนัสและบรรลุโสดาปัตติผล  นายจุนท์ได้กราบทูลนิมนต์พระผู้มีพระภาคเจ้ากับทั้งพระภิกษุสงฆ์ทั้งหลาย  ให้เข้าไปรับอาหารบิณฑบาตยังนิเวศน์ของตน  พระบรมศาสดาทรงรับด้วยดุษณีภาพ

ครั้นนายจุนท์ทราบในพุทธอัธยาศัยแล้ว  ก็กลับคืนสู่นิเวศน์  ให้ตกแต่งขาทนียะและโภชนียาหาร  กับทั้งสุกรมัทวะ (เนื้อสุกรอ่อน)  ประกอบด้วยรสอันเอมโอชาแต่ในเวลาราตรี  ครั้นรุ่งเช้านายจุนท์ได้ออกไปทูลอัญเชิญเสด็จพระบรมศาสดา

พระผู้มีพระภาคพร้อมด้วยพระภิกษุสงฆ์  ได้เสด็จไปยังนิเวศน์ของนายจุนท์  ประทับนั่งบนพุทธาอาสน์แล้ว  ตรัสแก่นายจุนท์ว่า  "สุกรมัทวะซึ่งท่านตกแต่งไว้นั้น  จงอังคาสเฉพาะแต่ตถาคตผู้เดียว  ที่เหลือนั้นให้ขุดหลุมฝังเสีย  และจงอังคาสภิกษุทั้งหลายด้วยอาหารอย่างอื่น ๆ เถิด"  นายจุนท์ก็กระทำตามพระพุทธบัญชา  ครั้นเสร็จภัตตกิจแล้วก็ตรัสอนุโมทนา  ให้นายจุนท์ปสาทะเบิกบานในไทยทานที่ถวายแล้ว  ก็เสด็จกลับไปสู่อัมพวัน

เมื่อพระพุทธองค์ ทรงเสวยภัตตาหารของนายจุนท์ในวันนั้น  ก็ทรงประชวรพระโรค  "โลหิตปักขันทิกาพาธ"  มีกำลังกล้า  ลงพระโลหิตเกิดทุกขเวทนามาก  แสดงปุพพกรรมที่ทรงทำไว้ในชาติก่อนแก่พระอานนท์  แล้วตรัสว่า  "อานนท์  มาเราจะไปเมืองกุสินารานคร"  พระอานนท์รับพระบัญชาแจ้งให้พระสงฆ์ทั้งหลายเตรียมตามเสด็จพร้อมแล้ว


................................

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น