ในครั้งนั้น ชนทั้งหลายร้องไห้รำพัน ด้วยความอาลัยในพระเถระเจ้า ติดตาม
ไปเป็นอันมาก พระเถระเจ้าได้ให้โอวาท ให้เห็นความไม่จีรังของสังขาร
ทั้งหลาย พร้อมกับเตือนใจให้มั่นอยู่ในความมไม่ประมาทในอริยธรรม แล้วให้
ชนเหล่านั้นพากันกลับไปสิ้น
พระเถระเจ้าเดินทางไป ๗ วัน ก็ถึงบ้านนาลันทคาม แคว้นมคธรัฐในเวลาเย็น
จึงพาภิกษุทั้งหลายพักที่ร่มไทยใหญ่ใกล้ประตูบ้าน บังเอิญอุปเรวัตมาณพ
หลานชายของพระธรรมเสนาบดีสารีบุตร เดินเที่ยวออกมานอกบ้าน เห็นพระ
เถระเจ้าเข้า ก็ดีใจ เข้าไปนมัสการ
พระเถระเจ้าถามว่า "อุปเรวัต ยายของเธออยู่หรือไปไหน ? "
"อยู่ที่เรือ เจ้าข้า" อุปเรวัตเรียนพระเถระเจ้าด้วยเคารพ
"ถ้าเช่นนั้น เธอจงกลับเข้าไปบอกยาย ขอห้องที่ประสูติให้ลุงพักกับขอให้จัดที่
สำหรับสงฆ์ ๕๐๐ ที่มานี้พอได้พักอาศัยในวันนี้ด้วย"
อุปเรวัตมาณพรีบกลับเข้าบ้าน ตรงเข้าไปหานางสารีพราหมณีผู้เป็นยายด้วย
ความดีใจ บอกตามคำที่พระเถระเจ้าสั่งมา
"เวลานี้ลุงของเจ้าอยู่ที่ไหน"
"อยู่ที่ประตูบ้านจ้ะ ยาย"
"เจ้ารู้ไหมว่า ลุงเจ้ามาทำไม ? "
"ไม่ทราบจ้ะ"
นางสารีพราหมณีคิดว่า "อุปดิส ลูกเรา ขอพักที่ห้องประสูติ เธอบวชมานานแล้ว
ชะรอยจะเบื่อบวช มาคราวนี้อาจจะสึกก็ได้" คิดแล้วก็ดีใจสั่งให้คนใช้รีบจัดแจง
ห้องประสูติ และสถานที่สำหรับพระสงฆ์ห้าร้อยพอพักอาศัยภายในบ้าน แล้วให้
อุปเรวัตมาณพออกไปอาราธนาพระเถระเจ้า ให้เข้ามาสู่เรือน
พระธรรมเสนาบดีสารีบุตร พาพระสงฆ์บริวารขึ้นเรือนมารดา ให้พระสงฆ์ทั้งหลาย
พักอาศัยอยู่ยังที่จัดแจงไว้ภายนอก ส่วนพระเถระเจ้าเข้าไปพักภายในห้องประสูติ
ของท่าน พอเวลาค่ำ โรคาพาธกล้าได้เกิดแก่พระมหาเถระ ถึงอาเจียนเป็นโลหิต
พระภิกษุเข้าถวายปฏิบัติ นำภาชนะอาเจียนและภาชนะอาจมออกมาชำระผลัด-
เปลี่ยนอยู่เนือง ๆ
นางสารีพราหมณีเป็นทุกข์ใจในอาการอาพาธของพระมหาเถระเจ้าเป็นอันมาก นั่ง
คอยดูอยู่ที่ประตูห้อง
ในค่ำคืนนั้น เทพยดาในเทวโลกได้พากันมาเยี่ยมพระเถระเจ้าเป็นอันมาก เริ่มต้น
แต่ท้าวโลกบาลทั้ง ๔ องค์ ท้าวโกสีย์เทวราช ท้าววสยามเทวราช และท้าวสันตุสิต-
เทวราช ตลอดท้าวมหาพรหม ต่างเข้ามาขอโอกาสปฏิบัติพยาบาลเช่นเดียวกัน
โดยลำดับ
พระเถระเจ้าให้คำตอบแก่เทพยดาทั้งหลายว่า "ภิกษุคิลานุปัฏฐากผู้ปฏิบัติพยาบาล
ของอาตมามีแล้ว ขอให้ท่านกลับไปเถิด"
ฝ่ายนางสารีพราหมณี เห็นเทวดาไปมาไม่ขาด แต่ละองค์ล้วนมีรัศมีโอภาสงามยิ่งนัก
เพียบพร้อมด้วยทิพยรัตน์สรรพาภรณ์ล้ำค่าทั้งสิ้น ต่างเข้าไปหาพระเถระเจ้าด้วย
อาการคารวะเป็นอันดี มีความสงสัยเทพยดานั้นคือใคร มีธุระอันใดหนอ ? " จึงเข้าไป
ถามอาการไข้กะพระจุนทเถระบุตรชายคนน้อยว่า "พ่อจุนทะ อาการไข้ของอุปติส
พี่ชายของพ่อ เป็นอย่างไรบ้าง"
"ยังพอทนได้อยู่ดอก แม่" พระจุนทะตอบ แล้วแจ้งอาการไข้ให้มารดาฟัง "ขณะนี้
อาการไข้สงบแล้ว ทั้งว่างคนเยี่ยมด้วย แม่เข้าไปหาสนทนากับพี่ใหญ่เถิด"
นางพราหมณีได้โอกาสเข้าไปหาพระเถระเจ้า แล้วถามว่า "บุคคลที่เข้ามาหาพ่อ
ก่อนนั้น คือผู้ใด ? "
"ท้าวจตุโลกบาล จ๊ะ แม่"
นางพราหมณีตะลึงในเกียรติอันสูงของพระลูกชาย พลางปราศรัยต่อไปว่า "พ่ออุปติส
พ่อยังเป็นใหญ่กว่าท้าวจตุโลกบาลอีกหรือนี่ ? "
ท้าวจตุโลกบาลก็เหมือนคนอุปัฏฐาก บำรุงวัดเท่านั้นแหละแม่ ! เมื่อครั้งพระบรม-
ศาสดาของลูกปฏิสนธิในครรภ์ของพระพุทธมารดา ท้าวจตุโลกบาลทั้งสี่พระองค์นี้
ยังลงมาถวายอารักขาเป็นนิตย์"
..............................................
(ยังมีต่ออีก)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น