ครั้นเพลาบ่าย ประชาชนทั้งหลายได้มาประชุมกัน ณ บริเวณรอบต้นคัณฑา
มพฤกษ์เป็นอันมาก จึงพระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จออกจากพระคันธกุฎี เพื่อทรง
ทำยมกปาฏิหาริย์ ประทับยืน ณ ที่หน้าพระวิหาร ขณะนั้น พระสาวกและสาวิกา
ทั้งหลาย ที่มีฤทธิ์ต่างก็เข้าเฝ้า ขอประทานโอกาสทำปาฏิหาริย์ถวายพระบรม-
ศาสดาไม่ทรงประทาน ต่อนั้น พระบรมศาสดาก็ทรงเข้าจตุตถฌานอันเป็นที่ตั้ง
แห่งอภิญญา ทรงทำปาฏิหาริย์เหาะขึ้นไปบนอากาศเสด็จดำเนินไปมา ณ พื้น
รัตนจงกรม แล้วทรงนิรมิตพระพุทธนิรมิต เหมือนพระองค์ขึ้นองค์หนึ่ง แสดง
อิริยาบถให้ปรากฏสลับกับพระองค์ คือพระองค์เสด็จประทับยืน พระพุทธนิรมิต
เสด็จประทับนั่ง พระองค์ประทับนั่ง พระพุทธนิรมิตประทับยืน ทุก ๆ อิริยาบถสลับกัน
บางทีพระพุทธนิรมิตตรัสถาม พระองค์ตรัสตอบ พระองค์ตรัสถามบ้าง พระพทุธ
นิรมิตตรัสตอบบ้าง ในที่สุดทรงทำปาฏิหาริย์ให้เกิดท่อน้ำท่อไฟ พวยพุ่งออกจาก
พระกายเป็นคู่ ๆ รอบ ๆ พระกายเป็นสาย ๆ ไม่ระคนกัน สว่างงามจับท้องฟ้านภากาศ
เป็นมหาอัศจรรย์ยิ่งนัก
ครั้งนั้น เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย ประชุมกันชมพระพุทธปาฏิหาริย์มากมายสุด
ที่จะคณนา พระบรมศาสดาทรงทำปาฏิหาริย์ แล้วก็ทรงแสดงธรรมโปรดพุทธบริษัท
ที่สันนิบาตประชุมกันอยู่ในที่นั้น ในเวลาจบพระธรรมเทศนา พุทธบริษัททั้งเทพยดา
และมนุษย์ ได้บรรลุอริยมรรคผล เป็นอันมาก.
.....................................
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น