วันอังคารที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ถวายพระเชตวันวิหาร


ครั้งนั้น อนาถบิณฑิกมหาเศรษฐี ผู้อยู่ในเมืองสาวัตถี  มาที่พระนครราชคฤห์ด้วยธุรกิจอย่างหนึ่ง  พักอยู่ที่นิเวศน์ของท่านราชคฤห์เศรษฐี  ผู้เป็นน้องชายแห่งภริยาของท่าน  ได้สดับพระธรรมเทศนาบรรลุโสดาปัตติผล  ได้ถวายทานแก่พระภิกษุสงฆ์  มีองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นประธาน  แล้วกราบทูลอาราธนาพระบรมศาสดา  ให้เสด็จประกาศพระพุทธศาสนายังนครสาวัตถีพร้อมกับกราบทูลว่า  จะจัดสร้างพระวิหารถวายให้เป็นสังฆาราม  ครั้นพระบรมศาสดาทรงรับอาราธนาแล้ว  ท่านอนาถบิณฑิกมหาเศรษฐีก็รีบล่วงหน้าไปบริจาคทรัพย์ซื้อที่ดินอันเป็นอุทยานของพระราชกุมารพระนามว่า  "เชต"  โดยวิธีให้คนขนเอาเงินมาลาดลงให้เต็มพื้นที่นั้นตามสัญญา  สิ้นเงิน ๒๗ โกฏิ  ทั้งพระราชกุมารเจ้าของที่ให้สัญญาขอให้จารึกพระนามของพระองค์ว่า  "เชตวัน"  ติดไว้ที่ซุ้มประตูพระอารามซึ่งเป็นส่วนของพระองค์สร้างอีกด้วย

ท่านมหาเศรษฐีได้บริจาคทรัพย์สร้างพระคันธกุฎี  และเสนาสนะอันควรแก่สมณวิสัย  พร้อมหมดทุกอย่างด้วยจำนวนเงินอีก ๒๗ โกฎิ  เมื่อพระเชตวันวิหารสำเร็จเรียบร้อยแล้ว  ก็ได้ทูลอัญเชิญพระบรมศาสดาเสด็จมาจำพรรษา  สมเด็จพระบรมศาสดาพร้อมด้วยพระสงฆ์สาวก  เสด็มาสถิตยังพระมหาวิหารเชตวัน  ในความอุปถัมภ์บำรุงของพุทธบริษัท  ท่านอนาถบิณฑิกมหาเศรษฐีเป็นประมุข  พระศาสดาและพระสงฆ์ได้รับความสุขตามควรแก่ววิสัย  ทรงแสดงธรรมโปรดพุทธบริษัททั้งหลายให้เลื่อมใส  มั่นอยู่ในคุณพระรัตนตรัยเป็นอันมาก

ครั้งนั้น  พระนันทะพุทธอนุชา เกิดความกระสันเป็นทุกข์ใจด้วยไม่มีความเลื่อมใสในการบรรพชา ครั้นพระศาสดาทรงทราบ จึงรับสั่งให้มาเฝ้า  ตรัสถาม  พระนันทะทูลความวา  ตนมีจิตกำหนัดคิดถึงนางชน
ปทกับยาณี

ลำดับนั้น  พระชินศรีจึงทรงจูงกรของพระอนุชา  สำแดงอิทธานุภาพ  พระนันทะขึ้นไปสู่ดาวดึงส์เทวโลก  บันดาลให้เห็นแม่วานรตัวหนึ่งในระหว่างทาง  แล้วทรงพาขึ้นไปให้เห็นนางเทพอัปสรกัญญาซึ่งมีกายงามวิจิตรเจริญตา  กำลังดำเนินขึ้นไปเฝ้าท้าวสหัสสนัยยังเทพวิมาน  จึงตรัสถามว่า  "นันทะนางชน
ปทกัลยาณีที่เธอมีใจรัญจวนถึงนั้น  กับนางอัปสรเหล่านี้นางไหนจะงามกว่ากัน"

พระนันทะกราบทูลว่า  "ข้าแต่พระผู้มีพระภาค  จะเอานางชนปทกัลยาณีมาเปรียบเทียบกับนางฟ้านั้นผิดกันไกล  นางชนปทกัลยาณีหากจะเปรียบเทียบ  ก็ได้เท่ากับแม่วานรในระหว่างเท่านั้น"

นันทะ  ผิว่าเธอยินดีรักใคร่นางฟ้าทั้งหลายนี้  ตถาคตรับรองจะช่วยให้ได้นางฟ้าสำเร็จตามความปรารถนาของเธอ"

"ข้าแต่พระองค์ผู้ทรงพระภาคเป็นอันงาม  ถ้าพระองค์จะทรงพระกรุณาช่วยให้ข้าพระองค์ได้นางฟ้านี้สมความปรารถนาแล้วไซร้  ข้าพระองค์ยินดีจะอยู่ในเพศพรหมจรรย์  ไม่รัญจวนจิตคิดออกไป"

พระบรมศาสดาตรัสว่า  "นันทะ  ตถาคตรับรอง"  แล้วก็ทรงพาพระนันทะอันตรธานจากเทวโลก  มาปรากฏ  ณ  พระเชตวัน

ดังนั้น  บรรดาภิกษุที่เป็นเพื่อนนันทะทราบเหตุ  ต่างพากันพูดเคาะพระนันทะว่า  "ประพฤติพรหมจรรย์เพื่อนางฟ้า โดยมีพระบรมศาสดาเป็นผู้รับรองจะสงเคาห์ให้"  พระนันทะคิดละอายใจ  จึงหลีกออกไปอยู่ในที่สงัด  บำเพ็ญสมณธรรมแต่ผู้เดียว  ไม่ช้าก็ได้บรรลุพระอรหัตตผล  รุ่งขึ้นก็เฝ้าพระบรมศาสดา  กราบทูลให้พระองค์พ้นจากการรับรองในการประพฤติพรหมจรรย์เพื่อนางฟา  ทุกประการ.


.......................................................


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น