ครั้น วันที่ ๗ พระนางพิมพาเทวีประดับองค์ราหุลกุมารด้วยอาภรณ์อันวิจิตร ให้ราชบุรุษพาเข้าไปเฝ้าพระบรมศาสดา เพื่อทูลขอขุุมทองซึ่งเป็นทรัพย์สมบัติอันราหุลกุมาร ผู้เป็นทายาทควรจะได้รับเป็นสมบัติสืบสันติวงศ์ พระศาสดาก็ทรงพาราหุลกุมารไปพระวิหาร แล้วโปรดให้พระสารีบุตรจัดการบรรพชาราหุลกุมารเป็นสามเณร
พระเจ้าสุทโธทนะทรงทราบ ก็โทมนัสเสียพระทัย ด้วยเดิมนั้นทรงประสงค์จะให้นันทกุมาร พระโอรสองค์ที่ ๒ สืบราชสมบัติ พระบรมศาสดาก็ทรงพาไปอุปสมบทเสีย ท้าวเธอก็ทรงหวังว่า จะให้ราหุลกุมารซึ่งเป็นทายาทสืบราชสมบัติต่อไป ซึ่งเป็นความหวังครั้งสุดท้าย แต่แล้วพระบรมศาสดาก็ทรงพาราหุลกุมารไปให้บรรพชาเสียอีก จึงรีบเสด็จไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้ายังพระวิหาร แล้วทูลขอประทานพระพุทธานุญาตว่า "แต่นี้ต่อไปเมื่อหน้า กุลบุตรผู้ใดแม้ประสงค์จะบวช หากมารดาบิดายังไม่ยอมพร้อมใจอนุญาตให้บวชแล้ว ขอให้ทรงงดไว้ก่อน อย่าเพิ่งให้บรรพชาอุปสมบทแก่กุลบุตรผู้นั้น" พระบรมศาสดาก็ประทานพรแก่พระพุทธบิดา แล้วถวายพระพรอำลาพระนันทะและราหุลสมเณร พร้อมด้วยภิกษุสงฆ์บริษัท เสด็จนิวัตนาการกลับกรุงราชคฤห์มหานคร.
.............................................
คัดลอกจาก.....หนังสือพุทธประวัติทัศนศึกษา
นิพนธ์ของ......พระพิมลธรรม (ชอบ อนุจารีมหาเถระ ร.บ.)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น