วันเสาร์ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2556

ทรงเสวยวิมุติสุข



       ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์นั้น


       พญามุจจลินทนาคราช มาทำขนดกายรอบพระองค์ กำบังฝนถวาย

ต่อมา มีพราหมณ์ผู้หนึ่ง มีนิสัยเป็นหุหุกชาติ ชอบตวาดข่มขู่ผู้อื่นด้วยวาจาว่า หึ! หึ! มายังที่นั้น ได้ทูลถามถึงพราหมณ์ และธรรมอันทำบุคคลให้เป็นพราหมณ์ว่า  "บุคคลชื่อว่า เป็นพราหมณ์ด้วยเหตุเพียงเท่าไร และธรรมอะไร ทำบุคคลให้เป็นพราหมณ์ ? "

พระองค์ตรัสตอบว่า  "พรามหณ์ ผู้ใดมีบาปธรรมอันลอยเสียแล้ว ไม่มีกิเลสเป็นเครื่องขู่ผู้อื่นว่า หึ หึ เป็นคำหยาบ และไม่มีกิเลสอันย้อมจิตให้ติดแน่นดูจน้ำฝาด มีตนสำรวมแล้ว ถึงที่สุดแห่งเวทแล้ว มีพรหมจรรย์ได้อยู่จบแล้ว ผู้นั้นไม่มีกิเลสเครื่องฟูในโลกแม้น้อยหนึ่ง ควรกล่าวได้ว่า ตนเป็นพรามหณ์โดยธรรม"

พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงแสดงสมณะว่า เป็นพรามหณ์ และธรรมอันทำบุคคลให้เป็นสมณะว่า  เป็นธรรมอันทำบุคคลให้เป็นพรามหณ์ในพระพุทธศาสนา โดยโวหารพราหมณ์ ด้วยพระวาจานี้

ครั้นล่วง ๗ วันแล้ว  เสด็จไปประทับนั่งขัดสมาธิยังร่มไม้จิก  อันมีนามว่า  "มุจจลินท์"  อันตั้งอยู่ในทิศบูรพาหรือาคเนย์ แห่งไม้มหาโพธิ เสวยวิมุติสุขอยู่ ณ ที่นั้นอีก ๗ วัน  ในกาลนั้นฝนตกพรำตลอด ๗ วัน  พญานาคมีนามว่า "มุจจลินทนาคราช"  มีอานุภาพมาก อยู่ที่สระโบกขรณีใกล้ต้นมุจจลินท์พฤกษ์นั้น มีความเลื่อมใสในพระสิริวิลาส พร้อมด้วยพระรัศมีโอภาสอันงามล่วงล้ำเทพยดาทั้งหลาย  จึงเข้าไปใกล้แล้วขดเข้าซึ่งขนดกายแวดวงพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ ๘ รอบ และแผ่พังพานอันใหญ่ป้องปกเบื้องบนพระเศียร มิให้ลมและฝนถูกต้องพระวรกายพระผู้มีพระภาคเจ้า

ครั้นล่วง ๗ วัน ฝนหายขาดแล้ว พญานาคก็คลายขนด จำแลงกายเป็นมาณพเข้าไปถวายอัญชลีเฉพาะพระพักตร์  พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงเปล่งอุทานวาจาว่า  "ความสงัดเป็นสุข สำหรับบุคคลผู้มีธรรมอันเห็นแล้ว ยินดีอยู่ในที่สงัด รู้เห็นตามความเป็นจริง ความไม่เบียดเบียน คือ ความสำรวมในสัตว์ทั้งหลาย และความปรารถนาจากความกำหนัด คือ ความล่วงกามทั้งหลายเสียได้ด้วยประการทั้งปวง เป็นสุขในโลก ความนำอัสมิมานะ คือ ความถือตัวออกให้หมดไป เป็นสุขอย่างยิ่ง"

ครั้นล่วง ๗ วันแล้ว  เสด็จออกจากร่มไม้มิจจลินท์ไปยังร่มไม้เกตุอันมีนามว่า "ราชายตนะ" อันอยู่ในทิศทักษิณ แห่งต้นไม้มหาโพธิ เสวยวิมุติสุข ณ ที่นั้น สิ้น ๗ วัน เป็นอวสาน ในกาลนั้น  ท้าวสักกะอมรินทราธิราช ทรงดำริว่า  พระสัมมาสัมพุทธเจ้ามิได้เสวยพระกระยาหาร นับแต่กาลตรัสรู้มาได้ ๔๙ วันแล้ว  พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงรับผลสมอเสวยแล้ว ทรงทำสรีรกิจลงพระบังคน ทำสำราญพระกายแล้ว เสด็จเข้าประทับยังร่มไม้ราชายตนพฤกษ์นั้น

คัดลอกจาก หนังสือ พุทธประวัติทัศนศึกษา  นิพนธ์ของ พระพิมลธรรม (ชอบ อนุจาริมหาเถระ ร.บ.)

                                                     ..................................................

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น