เมื่อคิดดังนี้แล้ว ก็เกิดตัณหาในลาภสักการะเข้าครอบงำจิต คิดใคร่จะได้ลาภสักการะ สัมมานะ เคารพนับถือ แล้วก็คิดต่อไปว่า เราจะทำบุคคลผู้ใดให้เลื่อมใสกราบไหว้บูชาดีหนอ จึงจะบังเกิดลาภสักการะ ครั้นคิดต่อไปก็มองเห็นอุบายทันทีว่า พระอชาตสัตตุราชกุมาร พระโอรสของพระเจ้าพิมพิสารนั้น ยังทรงพระเยาว์ ยังไม่รอบรู้คุณและโทษแห่งบุคคลใด ๆ ควรจะไปคบหาด้วยกับพระราชกุมารนั้นเถิด
ลาภสักการะก็จะพลันบังเกิดเป็นอันมาก
ครั้นดำริดังนั้นแล้ว ก็หลีกจากเมืองโกสัมพีไปสู่เมืองราชคฤห์ แล้วนิรมิตกายเป็นกุมารน้อย เอาอสรพิษ ๔ ตัว ทำเป็นอาภรณ์ประดับมือและเท้าขดทำเป็นเทริดบนศีรษะ ๑ ตัว ทำเป็นสังวาลพันกาย ๑ ตัว สำแดงปาฏิหาริย์ด้วยปุถุชนฤทธิ์ของตน ลอยลงจากอากาศปรากฏกายอยู่เฉพาะหน้าพระอชาตสัตตุราชกุมาร
ครั้นพระราชกุมารตกใจกลัว ก็ทูลว่า "อาตมา คือ พระเทวทัต" แล้วเจรจาเล้าโลมให้พระราชกุมารหายกลัว สำแดงกายเป็นพระสงฆ์ทรงไตรจีวรและบาตร ยืนอยู่ตรงพระพักตร์พระราชกุมาร เมื่อพระราชกุมารเห็นปฏิหาริย์เช่นนั้น ก็ทรงเลื่อมใส เคารพนับถือ ถวายลาภสักการะบูชาเป็นอันมาก
ภายหลัง พระเทวทัตเกิดบาปจิตคิดใฝ่สูงด้วยอำนาจตัณหา มานะครอบงำจิตคิดผิดไปว่า เราสมควรจะเป็นผู้ครองพระภิกษุสงฆ์ทั้งปวง พอดำริดังนั้น ปุถุฤทธิ์ของตนก็เลื่อมสูญพร้อมกับจิตตุบาท ครั้นคิดดังนั้นแล้ว ก็เดินทางมาเฝ้าพระบรมศาสดา ซึ่งเสด็จประทับอยู่ที่พระเวฬุวันวิหาร ณ เมืองราชคฤห์ ในเวลาที่พระบรมศาสดาทรงแสดงธรรมแก่มวลพุทธบริษัท ซึ่งพระเจ้าพิมพิสารมหาราชประทับเป็นประธานอยู่ เมื่อจบพระธรรมเทศนาแล้ว พระเทวทัตได้กราบทูลว่า "ข้าแต่พระผู้มีพระภาค บัดนี้ พระองค์ทรงชราภาพแล้ว จงเสวยทิฏฐธรรมสุขวิหาร สำราญพระกมล มีความขวนขวายน้อยเถิด ข้าพระองค์จะได้ว่ากล่าวสั่งสอนแทนพระองค์สืบไป"
ครั้นพระผู้มีพระภาคเจ้าได้ทรงสดับ จึงตรัสห้ามว่า "ไม่ควร" ไม่ทรงอนุญาตให้เป็นไปตามความปรารถนาของพรเทวทัต พระเทวทัตก็โทมนัส ผูกอาฆาตในพระบรมศาสดา จำเดิมแต่นั้นมา พระบรมศาสดาได้ทรงประกาศความประพฤติอันไม่ดีงามของพระเทวทัต ซึ่งเกิดขึ้นด้วยจิตลามกให้พระสงฆ์ทั้งหลายทราบ เพื่อให้ภิกษุที่ยังเป็นปุถุชนอยู่จะได้สังวรระวังจิตมิให้วิปริตไปตาม
ต่อมาพระเทวทัตคิดการใหญ่ ปรารถนาจะทำอันตรายแก่พระผู้มีพระภาค จึงเข้าไปเฝ้าพระเจ้าอชาตสัตตุราชกุมาร แล้วอุบายทูลว่า "แต่ก่อนมนุษย์ทั้งหลายมีอายุยืน บัดนี้ อายุของมุษย์น้อยถอยลง หากพระองค์สิ้นพระชนม์เสียก่อนพระราชบิดาแต่เวลายังหนุ่มอยู่แล้ว ไฉนพระองค์จะได้รับราชาภิเษกเป็นพระมหากษัตริย์ เสวยพระราชสมบัติสมดังพระทัยที่ปรารถนาไว้เล่า ฉะนั้น พระองค์จงปลงพระชนม์พระราชบิดา จัดการสถาปนาพระองค์ขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์ เสวยราชย์สมบัติเสียตั้งแต่บัดนี้เถิด แม้อาตมาก็จะฆ่าพระสมณโคดมเสีย จะได้เป็นพระบรมศาสดาปกครองพระสงฆ์ทั้งปวงเช่นเดียวกัน
...........................................
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น