วันพฤหัสบดีที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

สละราชสมบัติ


                     

                          ขอนอบน้อมแด่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า  พระองค์นั้น
 เจ้าชายสิทธัตถะเสด็จหนีออกจากพระนคร  เพื่อบรรพชาโดยม้ากัณฐกะและมีนายฉันทะตามเสด็จ

หลังจากที่เจ้าชายสิทธัตถะเสด็จพ้นพระนครไปแล้ว  ในระหว่างทางได้มีพญามารวัสวดีผู้มีใจบาป  เมื่อเห็นเจ้าชายสิทธัตถะสละราชสมบัติ  แล้วเสด็จหนีออกจากพระนครเพื่อบรรพชา  เห็นว่าพระองค์จะล่วงบ่วงของพญามาร  จึงได้เหาะมาในอากาศ แล้วยกมือขึ้น  ร้องห้ามว่า  ดูกรพระสิทธัตถะ ท่านอย่าเพิ่งรีบร้อนออกบรรพชาเลย  ยังอีกเพียง ๗ วันเท่านั้น  ทิพยรัตนจักรก็จักปรากฏแก่ท่าน  แล้วท่านก็จะได้เป็นพระบรมจักรพรรดิ  เสวยราชสมบัติเป็นอิสราธิบดี  มีทวีปใหญ่ทั้ง ๔  เป็นขอบเขต  ขอท่านจงนิวัตนาการกลับคืนสู่พระนครเถิด

พระโพธิสัตว์หรือเจ้าชายสิทธัตถะตรัสว่า  ดูกร  พญามาร  แม้เราจะทราบแล้วว่า ทิพยรัตนจักรจะเกิดขึ้นแก่เรา  แต่เราก็มิได้ต้องการบรมจักรพรรดิสมบัตินั้น  เพราะเหตุว่า แม้สมบัติบรมจักรพรรดินั้น ก็ตกอยู่ในอำนาจไตรลักษณ์ ไม่อาจนำผู้เสวยให้พ้นทุกขืได้  ท่านจงหลีกไปเถิด  เมื่อทรงขับพญามารไปแล้ว  พระองค์ก็ทรงขับม้ากัณฐกะราชชาติมโนทัยไปจากที่นั้น  มุ่งหน้าสู่มรรคาเพื่อข้ามพ้นเขตราชเสมาแห่งกรุงกบิลพัสดุ์  เหล่าทวยเทพยดาต่างก็พากันปลาบปลื้มยินดี  บูชาด้วยบุปผามาลัยมากมาย  บ้างก็ติดตามห้อมล้อมถวายการรักษาคุ้มครองพระมหาบุรุษเจ้าตลอดไป


 เจ้าชายสิทธัตถะทรงตัดพระโมลีด้วยพระขรรค์  เพื่ออธิษฐานเพศเป็นบรรพชิต

พอจวนใกล้รุ่งปัจจุบันสมัย  ก็บรรลุถึงฝั่งแม่น้ำอโนมานที  ทรงขับม้ากัณฐกะกระโจนข้ามแม่น้ำอโนมาไปได้โดยสวัสดี  เมื่อได้ทรงทราบว่าพ้นเขตพระนครกบิลพัสดุ์แล้ว  จึงเสด็จลงจากหลังอัศวราช  แล้วทรงนั่งประทับบนหาดทรายอันขาวสะอาด  รับสั่งกับนายฉันทะว่า  เราจักบรรพชาถือเพศเป็นบรรพชิต ณ ที่นี้  ท่านจงนำเครื่องประดับของอาตมากับม้าสินธีพก  กลับพระนครเถิด  เมื่อตรัสเสร็จแล้ว  ก็ทรงเปลื้องเครื่องประดับสำหรับขัตติยวงศ์ทั้งหมด  แล้วมอบให้นายฉันทะ  พระองค์ตั้งพระทัยปรารถนาจะทรงบรรพชา  จึงทรงดำริว่า  เกศาของอาตมานี้  ไม่สมควรแก่สมณเพศ  จึงทรงจับพระโมลีด้วยพระหัตถ์ซ้าย  พระหัตถ์ขวาทรงพระขรรค์  ตัดพระโมลีให้ขาดออกเรียบร้อยด้วยพระหัตถ์ของพระองค์เอง  แล้วทรงจับพระโมลีขว้างขึ้นไปในอากาศ  ทรงอธิษฐานว่า  ถ้าอาตมาจะได้ตรัสรู้สัมโพธิญาณโดยแน่แท้แล้ว  ขอจุฬาโมลีนี้จงตั้งอยู่ในอากาศ  อย่าได้ตกลงมา  จุฬาโมลีก็มิได้ตกลงมา  คงลอยอยู่ในอากาศ

ขณะนั้น สมเด็จพระอัมรินทราธิราชได้นำผอบแท้มารองรับพระจุฬาโมลี  แล้วนำไปบรรจุ ณ จุฬามณีในเทวโลก  จากนั้นต่อมา ฆฏิการพรหมจากพรหมโลก ได้นำไตรจีวรและบาตรมาถวาย  พระสิทธัตถะทรงรับผ้าไตรจีวรกาสาวพัสตร์และบาตรแล้ว  ทรงนำผ้ากาสาวพัสตร์อันเป็นธงชัยของพระอรหันต์  ทรงอธิษฐานเพศเป็นบรรพชิตอุดมเพศ  แล้วได้ทรงมอบผ้าทรงเมื่อครั้งเป็นคฤหัสเพศทั้งคู่ ให้แก่ฆฏิการพรหม   แล้วฆฏิการพรหมได้น้อมนำไปบรรจุในทุสสเจดีย์ในพรหมโลก

                                                       
                                                      ....................................................

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น