วันเสาร์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2556

พระเทวทัตถูกแผ่นดินสูบ


เมื่ออันเตวาสิกทั้งหลาย  หามพระเทวทัตมาถึงสระโบกขรณี  ซึ่งอยู่นอกพระเชตวันวิหาร  จึงวางเตียงลงในที่ใกล้สระ  แล้วก็ชวนกันลงอาบน้ำในสระนั้น  ส่วนพระเทวทัตก็ลุกขึ้นนั่งอยู่บนเตียง  ห้อยเท้าทั้งสองถึงพื้นดิน  ประสงค์จะเหยียบยันกายขึ้นยืนบนพื้นปฐพี  ในขณะนั้นพื้นปฐพีก็แยกออกเป็นช่อง  สูบเอาเท้าทั้งสองของพระเทวทัตลงไปในแผ่นดินโดยลำดับ  พระเทวทัตได้จมหายไปในภาคพื้น  ตราบเท่าถึงคอและกระดูกคาง  วางอยู่บนพื้นปฐพี

ในเวลานั้น  พระเทวทัตได้กล่าวคาถาสรรเสริฐบูชาพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า  "พระผู้มีพระภาค  เป็นอัครบุรุษ  ยอดแห่งมนุษย์และเทพยดาทั้งหลาย  พระองค์เป็นสารถีฝึกบุรุษอันประเสริฐ  พระองค์ทรงสมบูรณ์ด้วยบุญญลักษณ์ถึงร้อย  และบริบูรณ์ด้วยสมันตจักษุญาณ  หาที่เปรียบมิได้  ข้าพระองค์  ขณะนี้มีเพียงกระดูกคางและศีรษะ  กับลมหายใจเป็นครั้งสุดท้ายแล้ว  ขอถึงพระพุทธเจ้าเป็นสรณะ"

พอสิ้นเสียงแห่งคำนี้เท่านั้น  ร่างพระเทวทัตก็จมหายลงไปในพื้นปฐพี  ไปบังเกิดในอเวจีมหานรก  ด้วยบาปไม่เคารพในพระรัตนตรัย  ประทุษร้ายในพระบรมศาสดา  ทำสังฆเภท  อันเป็นอนันตริยกรรม

ข่าวพระเทวทัตถูกแผ่นดินสูบ  เป็นข่าวใหญ่เกรียวกราว  ได้แพร่สะพัดไปในชาวนครสาวัตถี  ไม่นานก็รู้กันทั่วกรุง  โจษจันกันไปทั่วชุมนุมชน  ด้วยเพิ่งจะรู้เพิ่งจะได้ยิน  เพิ่งจะปรากฎ  ผู้หนักในธรรมก็สังเวชสลดใจ  คนใจบุญก็สะดุ้งต่อบาป  เห็นบาปเป็นภัยใหญ่หลวง  คนที่เกลียดชังพระเทวทัต  ก็พากันดีใจโลดเต้นสาปแช่ง  สมน้ำหน้าพระเทวทัตหนักขึ้น

ภิกษุทั้งหลายทูลถามพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า  "บัดนี้  พระเทวทัตไปบังเกิดในที่ไหน"  พระบรมศาสดาตรัสว่า  "ไปบังเกิดในอเวจีมหานรก  ภิกษุทั้งหลาย  คนทำบาป  ย่อมเดือดร้อนในโลกนี้  เมื่อละจากโลกนี้ไปโลกอื่นย่อมทวีความเดือดร้อนยิ่งขึ้น"


....................................

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น