ครั้งที่สาม พระเทวทัตให้ปล่อยช้างนาฬาคีรี ช้างพระที่นั่งกำลังซับมันดุร้าย เพื่อให้ทำอันตรายพระชนม์ชีพพระบรมศาสดาในเวลาเสด็จออกมาบิณฑบาตในเวลาเช้า แต่ช้างนาฬาคีรีก็ไม่ทำร้ายพระองค์
ครั้งนั้น พระอานนท์เถรเจ้า มากด้วยความกตัญญู สละชีวิตถวายเป็นพุทธบูชา โดยกลัวว่าช้างนาฬาคีรีจะทำร้ายพระผู้มีพระภาคเจ้า จึงได้ออกไปยืนกั้นหน้าช้างนาฬาคีรีไว้ เพื่อให้ช้างทำลายชีวิตท่าน ปรารถนาจะป้องกันพระบรมศาสดา ในทันใดนั้น พระบรมศาสดาได้ทรงทรมานช้างนาฬาคีรีให้หมดพยศร้ายกาจ หมอบยอบกายเข้าไปถวายบังคมพระบรมศาสดา ฟังพระบรมศาสดาตรัสสอน แล้วเดินกลับเข้าสู่โรงช้าง ด้วยอาการอันสงบปรากฏแก่มหาชนที่ประชุมกันดูอยู่เป็นอันมาก เป็นมหาอัศจรรย์
ครั้นพระผู้มีพระภาคพาพระสงฆ์ไปยังพระเวฬุวันวิหาร จัดมหาทานถวาย ครั้นเสร็จภัตตกิจแล้ว พระบรมศาสดาได้ตรัสอนปุพพิกถาอนุโมทนา
เมื่อได้ทรงสดับคำของมหาชนพรรณนาถึงคุณของพระอานนทเถรเจ้า ที่ได้สละชีวิตออกไปยืนกั้นช้างนาฬาคีรี สมเด็จพระชินศรีจึงประทานพระธรรมเทศนามหาหังสชาดก และจุลลหังสชาดก ยกคุณของพระอานนทเถรเจ้าที่ได้สละชีวิตถวายพระองค์ แม้ในอดีตชาติ
แท้จริง การที่พระเทวทัตเกิดมีจิตบาปหยาบช้าลามก ทำร้ายพระบรมศาสดามาก่อนนั้นก็ดี แนะนำให้พระเจ้าอชาตศัตรูปลงพระชนม์พระเจ้าพิมพิสารก็ดี มิสู้จะปรากฏแพร่หลายนัก ต่อเมื่อปล่อยช้างนาฬาคีรีให้ประทุษร้ายพระบรมศาสดาครั้งนั้นแล้ว ความชั่วร้ายแต่หนหลังของพระเทวทัตก็ปรากฏทั่วไป ชาวพระนครราชคฤห์พากันโพนทนากันโกลาหลว่า พระเทวทัตคบคิดด้วยพระเจ้าอชาตศรัตรูปลงพระชนม์พระเจ้าพิมพิสารทำร้ายพระสัมพุทธเจ้า ทำกรรมชั่วช้าลามกสิ้นดี
ครั้นพระเจ้าอชาตศัตรูได้ทรงสดับข่าวติฉินร้ายแรงเช่นนั้น ก็ละอายพระะทัย จึงเลิกโรงทานที่จัดอาหารบำรุงพระเทวทัตและศิษย์ของพระเทวทัตเสียสิ้น ทั้งไม่เสด็จไปหาพระเทวทัตเหมือนแต่กอ่น แม้ชาวเมืองทั้งหลายก็ไม่ศรัทธาเสื่อมใส ไม่พอใจถวายการบำรุง แม้พระเทวทัตจะไปสู่บ้านเมืองใด ๆ ก็ไม่มีใครต้อนรับ เพียงแต่อาหารทัพพีหนึ่งก็ไม่ได้ พระเทวทัตได้เสื่อมเสียจากลาภสักการะทั้งปวง.
.........................................
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น