วันเสาร์ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2556

พระเทวทัตปล่อยช้างนาฬาคีรี


ครั้งที่สาม  พระเทวทัตให้ปล่อยช้างนาฬาคีรี  ช้างพระที่นั่งกำลังซับมันดุร้าย  เพื่อให้ทำอันตรายพระชนม์ชีพพระบรมศาสดาในเวลาเสด็จออกมาบิณฑบาตในเวลาเช้า  แต่ช้างนาฬาคีรีก็ไม่ทำร้ายพระองค์

ครั้งนั้น  พระอานนท์เถรเจ้า   มากด้วยความกตัญญู  สละชีวิตถวายเป็นพุทธบูชา  โดยกลัวว่าช้างนาฬาคีรีจะทำร้ายพระผู้มีพระภาคเจ้า  จึงได้ออกไปยืนกั้นหน้าช้างนาฬาคีรีไว้  เพื่อให้ช้างทำลายชีวิตท่าน ปรารถนาจะป้องกันพระบรมศาสดา  ในทันใดนั้น  พระบรมศาสดาได้ทรงทรมานช้างนาฬาคีรีให้หมดพยศร้ายกาจ  หมอบยอบกายเข้าไปถวายบังคมพระบรมศาสดา  ฟังพระบรมศาสดาตรัสสอน  แล้วเดินกลับเข้าสู่โรงช้าง  ด้วยอาการอันสงบปรากฏแก่มหาชนที่ประชุมกันดูอยู่เป็นอันมาก  เป็นมหาอัศจรรย์

ครั้นพระผู้มีพระภาคพาพระสงฆ์ไปยังพระเวฬุวันวิหาร  จัดมหาทานถวาย  ครั้นเสร็จภัตตกิจแล้ว พระบรมศาสดาได้ตรัสอนปุพพิกถาอนุโมทนา

เมื่อได้ทรงสดับคำของมหาชนพรรณนาถึงคุณของพระอานนทเถรเจ้า  ที่ได้สละชีวิตออกไปยืนกั้นช้างนาฬาคีรี  สมเด็จพระชินศรีจึงประทานพระธรรมเทศนามหาหังสชาดก  และจุลลหังสชาดก  ยกคุณของพระอานนทเถรเจ้าที่ได้สละชีวิตถวายพระองค์  แม้ในอดีตชาติ

แท้จริง  การที่พระเทวทัตเกิดมีจิตบาปหยาบช้าลามก  ทำร้ายพระบรมศาสดามาก่อนนั้นก็ดี  แนะนำให้พระเจ้าอชาตศัตรูปลงพระชนม์พระเจ้าพิมพิสารก็ดี  มิสู้จะปรากฏแพร่หลายนัก  ต่อเมื่อปล่อยช้างนาฬาคีรีให้ประทุษร้ายพระบรมศาสดาครั้งนั้นแล้ว  ความชั่วร้ายแต่หนหลังของพระเทวทัตก็ปรากฏทั่วไป  ชาวพระนครราชคฤห์พากันโพนทนากันโกลาหลว่า  พระเทวทัตคบคิดด้วยพระเจ้าอชาตศรัตรูปลงพระชนม์พระเจ้าพิมพิสารทำร้ายพระสัมพุทธเจ้า  ทำกรรมชั่วช้าลามกสิ้นดี

ครั้นพระเจ้าอชาตศัตรูได้ทรงสดับข่าวติฉินร้ายแรงเช่นนั้น  ก็ละอายพระะทัย  จึงเลิกโรงทานที่จัดอาหารบำรุงพระเทวทัตและศิษย์ของพระเทวทัตเสียสิ้น   ทั้งไม่เสด็จไปหาพระเทวทัตเหมือนแต่กอ่น  แม้ชาวเมืองทั้งหลายก็ไม่ศรัทธาเสื่อมใส  ไม่พอใจถวายการบำรุง  แม้พระเทวทัตจะไปสู่บ้านเมืองใด ๆ  ก็ไม่มีใครต้อนรับ  เพียงแต่อาหารทัพพีหนึ่งก็ไม่ได้  พระเทวทัตได้เสื่อมเสียจากลาภสักการะทั้งปวง.


.........................................

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น